ห้องอ่านเล่น

บทกันลืม เรื่อง ”ผ่ากะโหลก”
เริ่มผ่ากะโหลกกันเลยดีกว่า

เคยมีคำถามว่า คุณกล้าพอไหมที่จะผ่ากะโหลกตัวเองไหม?

ผมมาได้ล่อเล่นนะครับ?

แต่เป็นการผ่ากะโหลกทางความคิดเพื่อที่จะแหกกฎของตัวเองผ่าทาง ด้านความคิดเดิมๆออกจากกรอบเดิมๆ ความคิดเดิมๆ ความเชื่อเดิมๆ วิถีชีวิตเดิมๆ เขตที่ตัวเองเคยชิน เขตที่ตนเองเคยคิดว่าปลอดภัย ที่ไม่สร้างสรรค์(งี่เง่า)ทำไหมวิศวกรไฟฟ้าโง่ๆอย่างผมถึงเริ่มลงมือเขียนบทความแบบนี้ขึ้นมา นานมากแล้วที่ผมไม่เคยชอบอ่านหนังสือด้านพัฒนาความคิดมาก่อนเลย แต่เมือชีวิตผ่านระยะทางมาได้เรียนรู่อย่างหนึ่งว่าเราไม่จำเป็นที่ต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวเองไปทุกเรื่อง จากหนังสือหลายเล่มที่อ่านมาได้สะสมแนวคิดที่ทั้งบ้า ทั้งแตกต่าง

แต่มันก็เป็นทั้งเคล็ดลับที่อ่านมาจำมา คิดประยุกต์ขึ้นมาเอง

เริ่มกันเลยดีกว่า

.......ความเชื่อ........

เชื่อหรือไม่ว่า......

ทุกคนมีสิ่งที่อยากทำให้ชีวิต มีเป้าหมายที่ต้องการจะทำให้สำเร็จทั้งที่เป็นเรื่องเล็กและเรื่องใหญ แต่อะไรเป็นอุปสรรคที่ทำให้หลายเปาหมายของหลายๆคน ยังคงเป็นเพียงเป้าหมาย ที่ไม่เคยลงมือทำ

และเคยได้ยินไหมว่า.....
ถ้าคุณเขียนสิ่งที่ต้องการจะทำให้ตัวคุณเห็นอย่างชัดเจนแนวโน้มที่คุณจะทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้สำเร็จมีโอกาสมากกว่าถึงสามหรือสี่เท่า

พื้นที่แห่งนี้.....
จึงถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อที่จะเป็นแรงผลักดัน และสนับสนุนทำให้เป้าหมายที่มีในใจประสบความสเร็จเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายเล็กหรือใหญ่จะมีผลต่อตัวเองและคนรอบข้าง

กล้าที่จะ Make THE Difference…..
โดยการตั้งเป้าหมายเปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่าเดิมเป้าหมายที่เราตั้งไว้ จะเป็นเหมือนคำสัญญาที่เห็นทุกวันจะได้เกิดแรงสนับสนุนช่วยกระตุ้นและผลักดันให้เป้าหมายสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์และเร็วขึ้น

...........ทำต้องแตกต่าง...........

“If Tomorrow never comes …..What’re you gonna be..?”

Different/Thinking

.......นิทานเรื่องหนึ่งจำไม่ได้ว่าฟังมาจากไหน....เรื่องมีอยู่ว่า.......

มีนักเรียนห้องหนึ่งจำนวน 10 คนอยู่มาวันหนึ่งครูสั่งให้ทำรายงานมาส่งมีนักเรียนคนหนึ่งทำรายงานมาอย่างดีสวยงามครบถ้วนมีรูปประกอบสวยงาม แต่อีก 9คนที่เหลือทำมาแบบส่งๆง่ายให้แล้วๆไป

แล้วทั้งหมดเลยมาคุยกันว่าให้นักเรียนคนที่ทำมาสวยงานไปเปลี่ยนรายงานมาใหม่ไม่เช่นนั้นเพื่อนๆจะไม่ครบด้วยจะกลายเป็นที่รังเกียจของเพื่อนๆ

สุดท้ายนักเรียนคนนั้นก็ต้องปรับตนให้เข้ากับคนส่วนใหญ่คือทำอะไรที่แย่ๆเหมือนๆกัน

.....คำถาม..จำเป็นไหมคนที่คิดแปลกและแตกต่างจะต้องเป็นคนผิด......
“ทำตัวดี แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย ไม่มีใคร อยากเห็น คนเด่นเกิน” ใช้ได้ดีทุกสถานการณ์จริงหรือ?

.....วงจร ชีวิต....

ชีวิตของเราเมือยังเด็กเราเคยคิดว่าเมื่อไรเราจะโตอยากเป็นผู้ใหญ่ อยากทำอะไรตามใจที่อยากทำ อยากเรียน มหาลัยฯ จะได้ไม่ต้องตื่นเช้าไปเข้าเรียนสายๆก็ได้ ไปเที่ยวสนุกๆได้ไม่มีคนมาคุม

เมื่อเข้าเรียน มหาลัยฯกลับต้องเครียดมากๆอ่านหนังสือให้ทันสอบ ก็คิดว่าเมือไหร่ จะเรียนจบซะที่จะได้ทำงานมีอิสระ มีเงินเดือน ไม่ต้องขอเงินที่บ้าน จะได้ทำอะไรได้ดั่งใจ

แต่เมือตอนเรียนจบบ้างคนกลับลำบากกว่าเดิมเสียอีก ไหนจะต้องหางานทำ บ้างที่ก็ต้องทำงานที่ไม่ตรงกับที่เรียนมา ทำงานที่ทั้งยาก ทั้งหนัก ทั้งเหนื่อย เงินเดือนก็น้อยไม่พอใช้ ต้องทนโดนดุโดนว่า ทั้งที่อยู่บ้านเถียงพ่อแม่ประจำ เพราะกลัวตกงาน โดนไล่ออก

ก็เลยย้อนกลับมาคิดใหม่ได้ว่า “ถ้าย้อนเวลาได้ฉันจะไม่คิดแบบนี้ จะเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่อีกที่” บ้างคนเปลี่ยนทันกลับตัวทันเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ได้ แต่บ้างคนก็ได้แต่คิด แต่บ้างคนก็คิดไม่ได้ไหลไปตามกระแส ยอมทำแย่ๆทำตามคนจนๆส่วนใหญ่ 90 เปอร์เซ็นต์ ของโลกแห่งความจริง นี้คือเหตุผลหนึ่งที่ตอบได้ว่าทำไหมคนจนถึงมีมากว่าคนรวยเพราะคนจนไม่กลัวคิดต่าง........

“เปลี่ยนความคิด.....ชีวิตเปลี่ยน”

“ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้”

“ถ้าคุณคิดว่าทำได้ คุณก็จะทำมันได้ๆ” หลายคนเคยได้ยินแต่ไม่เคยเก็บไปคิด แต่บ้างคนกลับคิดว่าเป็นไปไม่ได้















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น